อาจจะไม่เห็น ผมเขียนคอลัมน์นี้ มานานมากแล้ว เพราะติดภารกิจงานประจำ และงานเขียนด้านอื่นอยู่ ก็เลยทำให้ห่างหายไปกันสักนิด และจะพยายามเขียนขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่เว้นว่างมากนาน ต้องขออภัยที่ไม่ได้เขียนมานานแล้วน่ะครับ และนี่คือการ Review ผลงานของนักเตะทั้งฤดูกาล โดยไล่เรียงจากหมายเลขเสื้อ และคะแนนความสามารถที่ให้โดยผม บางคนอาจจะมองมุมมองไม่เหมือนผมก็ได้ มันก็แล้วแต่ความคิดเห็นแล้วกันนะครับ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ฤดูกาลนี้จัดว่าเป็นฤดูกาลที่ยอดเยี่ยม ถึงยอดเยี่ยมมากๆ เพราะได้ดับเบิ้ลแชมป์ไปครอง จะขาดแค่ เอฟเอ คัพ เท่านั้นเอง แต่เพียงแค่นี้ก็ทำให้แฟนผีทั่วโลกดีใจกันล้นหลามแล้ว และนี่คือคะแนนความสามารถของแต่ละคนครับผม
1.เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์
ถึงน้าซาร์จะไม่มีลูกเซฟมหัศจรรย์ให้เห็นมากพอเหมือนกัน “ยักษ์เดนส์” ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล ผู้รักษาประตูในตำนาน และมีลูกเหวอๆ ออกมาให้เห็นกันบ่อยครั้ง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ประสบการณ์ของเขาที่ผ่านทีมชั้นนำของยุโรปอย่าง อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม, ยูเวนตุส (รวมฟูแล่ม ด้วยไหม?) บวกกับความสามารถในการอ่านเกมของเขาที่นิ่งขรึม ทำให้เป็นอีกหนึ่งปัจจัย และเขายังเซฟลูกจุดโทษได้ดี ทั้งรายการ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ต้นฤดูกาล และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ กับ เชลซีอีกด้วย
คะแนน 9/10
————————————–
2. แกรี่ เนวิลล์
ฤดูกาลนี้ ไม่ใช่ฤดูกาลของเขาเลย เพราะเนื่องจากมีอาการบาดเจ็บรบกวนมาตลอดทั้งปี และกว่าจะมาลงสนามได้อีกครั้ง ตั้งปีกว่า และไม่ได้มีส่วนร่วมกับทีมมากเท่าไหร่นัก อีกทั้งโดน เวส บราวน์ ยึดตำแหน่งตัวจริงไปอีกด้วย ส่งผลทำให้ เหรียญแชมป์พรีเมียร์ ลีก ปีนี้ ของเขาต้องพลาดออกไป ถึงแม้ว่า แฟนผีร้อยทั้งร้อย อยากให้เขาได้เหรียญแชมป์อีกด้วย
คะแนน 2/10
————————————–
3. ปาทริซ เอวร่า
เดนนิส เออร์วิน แทบจะถูกลืมไปเรื่อยๆ เพราะการเฉิดฉายแววรัศมีของแบ็คซ้ายเลือดน้ำหอม ที่มีชื่อเล่น ละม้ายคล้ายคลึงกับ อดีตพรีเซ็นเตอร์ ลูกอม คล็อเรส ความเร็ว และการเติมเกมรุกที่จัดจ้าน สร้างปัญหาให้กับแนวรับได้มาก แถมยังมีเกมรับที่ดี และสกัดลูกบอลอันตรายออกจากเส้นได้ดีอีกด้วย จะขาดก็แค่ ลูกยิงไกล มิเช่นนั้นจะกลายเป็นโคตรนักเตะแบ็คซ้ายที่เกินกว่า โรแบร์โต้ คาร์ลอส ไปแล้ว
คะแนน 8.5/10
————————————–
4. โอเว่น ฮาร์กรีฟส์
การย้ายเข้ามาปีแรกของฮาร์กรีฟส์ แทบจะเหมือนฝัน เพราะเพียงแค่ปีแรกก็สามารถช่วยพาทีมซิวดับเบิ้ลแชมป์ เสียแล้ว เขาสามารถเล่นได้หลายตำแหน่ง ทั้งมิดฟิลด์ตัวรับ ปีกขวา และแบ็คขวาก็ได้ เขามีทั้งการครองบอลที่เหนียวแน่น ความเร็ว และการสกัดบอลที่ดูเหมือนจะรุนแรง แต่ทำได้นิ่มนวล และแนบเนียน ซึ่งไฮไลต์ประจำฤดูกาลของ ฮาร์โก้ นี้คงหนีไม่พ้น ฟรีคิก ขโมยซีน ใส่ อาร์เซน่อล ทั้งๆ ที่โรนัลโด้ จ่อจะยิงอยู่แล้วเชียว
คะแนน 7.5/10
————————————–
5. ริโอ เฟอร์ดินานด์
ริโอ เฟอร์ดินานด์ ยังรักษาความเป็นกองหลังระดับโลกได้อย่างสม่ำเสมอ แต่ปีนี้ ยังพอมีให้เห็นลูกผิดพลาดแบบไม่น่าเชื่ออยู่หลายประตูด้วยกัน อย่างไรก็แล้วแต่ ก็ได้สถาปนาตัวเองพร้อมกับผองเพื่อนอีก 3 คน เป็นแผงหลังที่ดีที่สุดในสโมสรยุโรป
คะแนน 8/10
————————————–
6. เวส บราวน์
แฟนผีหลายคนอาจจะไม่เชื่อฝีมือว่า น้องน้ำตาล ผู้ที่เคยสังกัดอยู่ในกลุ่มจตุรเทพ (ที่ล่มสลายไปหลังจาก พี่เงาะแยกวง) นั้น จะมาเป็นตัวตายตัวเป็น ของกัปตันทีม แกรี่ เนวิลล์ นอกจากนี้ไม่พอ ยังทำผลงานเด่นเกินคาด ไม่ว่าจะเป็น ยิงประตูในรอบ 4 ปีกับคู่รักแต่ไม่แค้น (เพราะชนะตลอด) กับยอดทีมแชมป์ยุโรป 5 สมัย อย่างลิเวอร์พูล และสะกดให้ ลีโอเนล เมสซี่, ซามูเอล เอโต้, เธียรี่ อองรี จากแผงหน้าระดับโลก จากแคว้น คาตาลัน กลายเป็นนักเตะระดับแชมเปี้ยนชิพไปได้
คะแนน 8.5/10
————————————–
7. คริสเตียโน่ โรนัลโด้
ผลงานในฤดูกาลนี้ ยิงประตูถล่มทลายไปถึง 31 ประตูในลีก 8 ประตูในยูฟ่า 3 ประตูในเอฟเอ คัพ เบ็ดเสร็จทั้งสิ้น ล่อไป 42 ประตู ทำให้ขึ้นทำเนียบเป็นที่ 3 อันดับดาวซัลโว รองจาก รุด ฟาน นิสเตลรอย และ เดนิส ลอว์ ที่ 44(บางที่ 43) และ 46 ประตูด้วยกัน ถึงอย่างไรก็ตาม โรนัลโด้ ยังไม่สามารถแสดงศักยภาพออกมาได้ดีทุกนัด อาทิเช่นนัดเจอกับ แมนฯ ซิตี้, เวสต์ แฮม, ปอร์ทสมัธ ทำให้ดูขาดๆ เกินๆ ไปบ้าง แต่ปีนี้ เป็นครั้งแรกที่เขายิงทีมบิ๊กโฟร์ได้ครบทุกทีม หวังว่าคงไม่มีใครมานั่งครหาแล้วนะว่า โรนัลโด้ ยิงทีมใหญ่ไม่เป็น
คะแนน 9.5/10
————————————–
8. แอนแดร์สัน
“ไอ้***นี้ มันใครวะ ทำไมเล่นอ่อนด๋อยแบบนี้ กลับบ้านไปเตะบอลใหม่ไป๊” นี่คือเสียงวิพากย์วิจารณ์ หลังจากจบเกม ลีก คัพ ที่โดน โคเวนทรี บุกมากระทืบตายคาถิ่น เพราะดาวรุ่งราคาค่าตัวเกือบ 20 ล้านปอนด์ เล่นบอลได้เหมือนนักเตะค่าตัว 2 หมื่น ปอนด์ แต่หลังจากเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงนัดเจอกับ วีแกน แล้ว หลังจากนั้น “น้องแอน” กลายมาเป็น 1 ในขวัญใจของแฟนๆ เร้ด อาร์มี่ ได้อย่างไม่ยากเย็น เพราะการปรับตัวของมิดฟิลด์แซมบ้าวัยรุ่นผู้นี้ ค่อนข้างจะรวดเร็ว และเป็นห้องเครื่องที่สามารถสืบทอดเป็นทายาทของ พอล สโคลส์ ได้แบบตายตาหลับ จะขาดก็แค่การยิงประตู เท่านั้นแหละ
คะแนน 8/10
————————————–
9. หลุยส์ ซาฮา
น้อยครั้งที่จะได้เห็นกองหน้าบิ๊กอุย ผู้นี้ ลงมาล่าตาข่ายให้กับ ยูไนเต็ด เพราะส่วนใหญ่แล้ว จะใช้เวลาส่วนใหญ่ในการจีบพยาบาลเป็นหลัก แต่ก่อนที่คุณจะอ้าปาก สบถคำหยาบใส่เขา โปรดดูผลงานช่วงต้นฤดูกาลของเขาเสียก่อน เพราะเขามีส่วนช่วยให้ ยูไนเต็ด ที่เป็นโรคปืนฝืด กลับมาประคังประคองตัวได้ และยิงไปแล้วทั้งหมด 5 ประตู กำลังสงสัยว่า มันเอาเวลาที่ไหนไปยิงเนี่ย 5 ประตู ถ้านับเวลาลงเล่นในสนาม กับประตูที่ยิงได้ ถือว่าเป็นกองหน้าระดับโลกเลยนะนั่น!!
คะแนน 7/10
————————————–
10. เวย์น รูนี่ย์
ศูนย์หน้าร่างอวบ คนนี้ ยังถือว่าอายุแค่ 22 ปี แต่เป็นกองหน้าระดับโลก ตั้งแต่ ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ยังมีเส้นทางการค้าแข้งอีกยาวไกล ฤดูกาลนี้ ทำได้ค่อนข้างจะเสมอตัว ไม่ถือกับว่าพีคมาก แต่ก็มีส่วนร่วมทำให้ทีมชนะมาหลายๆ นัด โดยเฉพาะการปิดบัญชีระดับเยือกเย็น และการได้ศูนย์หน้าคนใหม่จากอีกทวีปมาเสริมคมด้วยแล้ว แทบจะทำให้งานของรูนี่ย์ในสนาม ง่ายขึ้นทันตาเห็น เมื่อมองภาพรวมแล้ว อาจจะไม่เด่นเท่าโรนัลโด้ แต่การไม่มีรูนี่ย์ในสนาม มักจะส่งผลเสียอยู่เสมอ
คะแนน 8/10
————————————–
11. ไรอัน กิ๊กส์
ฤดูกาลที่แล้ว ไรอัน กิ๊กส์ โชว์ฟอร์มอย่างสุดยอด ช่วยประคับประคองรุ่นน้องๆ จนได้ดิบได้ดี แต่มาปีนี้ บทบาทของเขาถูดลดถอยลง หลังจาก อาบังขายโรตี “นานี่” และ ปาร์ค จี ซอง มาร่วมแย่งตำแหน่งกันอย่างเมามันส์ และด้วยสภาพร่างกายที่ถดถอย ทำให้แฟนผีบางคน ที่อ้างว่า ดูแมนยูฯ มา 20 ปี ขับไล่ให้ ไรอัน กิ๊กส์ ออกไปจากสารบบของทีมปีศาจแดง ก่อนที่จะกลับมาโชว์ฟอร์มเด่นอีกครั้ง ในช่วงท้ายฤดูกาล……. เป็นไงล่ะ สำนึกบุญคุณกันบ้างหรือยัง??
คะแนน 7.5/10
————————————–
12. เบน ฟอสเตอร์
แทบจะไม่มีโอกาสได้ลงสนามเลย เพราะมีมือ 1 และ มือสอง อย่าง น้าซาร์ และคุสแซค อย่างไรก็ตาม โอกาสของเขาก็มาถึง เมื่อ ทั้งสองคนแรกที่กล่าวมานัด นัดกันเจ็บ+แบนพร้อมกัน จนทำให้ได้ประเดิมสนามในรอบปีกว่า หลังบาดเจ็บยาวกับ ดาร์บี้ และก็โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจ แบบนี้ ถ้า เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ แขวนสตั๊ดเมื่อไหร่ ก็ไม่มีปัญหาเรื่องการสืบทอด ทายาทอย่างแน่นอน
คะแนน 4/10
————————————–
13. ปาร์ค จี ซอง
ไม่รู้เหมือนกันว่า ตี๋ปาร์ค แนะนำละครเกาหลี เรื่อง “รักวุ่นวายของเจ้าชายกาแฟ” ให้เพื่อนๆ ได้ดูกันครบทุกคนหรือยัง แต่ที่แน่ๆ ผลงานในสนามของเขา หลายๆ คนก็ต้องยอมซูฮกให้ นอกจากมีทั้งความขยันแล้วยังมีความรวดเร็ว และเทคนิคที่แพรวพราว จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำให้ นักเตะจากแดนโสมขาวผู้นี้ ได้รับการยกย่องให้เป็นนักเตะหมายเลข 1 ของ เอเชีย
คะแนน 7.5/10
————————————–
14. อลัน สมิธ
อันนี้ ผู้เขียนขอแถมหน่อย หลังจากที่ได้ตัดสินใจ เลือกย้ายไปอยู่นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด และทำประตูได้ในนัดอุ่นเครื่อง หวังว่า เขาจะกลับมายิงเปรี้ยงปร้างเหมือนเดิม……เปล่าเลย เขาถูกทั้ง บิ๊กแซม และ เควิน คีแกน จับไปเล่นทั้งกองกลาง และกองหน้า จนจูนตัวเองไม่ถูก และยังมีสากกะเบือติดตัวแถมมาด้วย หลังจากขาหัก จนต้องดูกันต่อไปว่า ปีหน้า สมิธจะยิงได้(ซักลูก)ไหม? แต่ก็มีเรื่องดีอยู่ที่ว่า เขาเคยเป็นถึงรองกัปตัน นิวคาสเซิ่ล ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่ย้ายมาเลยเชียวนะ(?)
คะแนน 1/10
————————————–
15. เนมันย่า วิดิช
เขาเริ่มใต่เต้าจากกองหลังระดับธรรมดา กลายเป็น กองหลังระดับโลกได้อีกคน เมื่อจับคู่ประสานงาน กับ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ได้อย่างหายห่วง และเป็นเซ็นเตอร์ที่ใครหลายคนต้องกลัว เมื่อจังหวะเข้าเสียบสกัดของเขานั้น ให้เอาปืนมายิงแสกหน้ายังดูเบากว่าเลย อย่างไรก็ตาม มีอาการบาดเจ็บรบกวนตลอดเวลา ทำให้ค่อนข้าง โผล่ๆ หายๆ ไปบ้างเล็กน้อย แต่ก็สามารถกลับมารับใช้ทีมได้ ในเกมสำคัญ อย่างเฉียดฉิว
คะแนน 8.5/10
————————————–
16. ไมเคิ่ล คาร์ริค
เป็นห้องเครื่องอีกคนนึง ที่ ยูไนเต็ด ขาดไม่ได้เช่นกัน เพราะจังหวะการเดินเกมรุกส่วนใหญ่จะขึ้นทางคาร์ริค กันหมด แม้ผลงานอาจจะดูไม่โดดเด่นเท่าไหร่นัก แต่ก็เสมือนนักเตะที่ปิดทองหลังพระอย่างแท้จริง ซึ่งการโชว์ฟอร์มในฤดูกาลนี้กับ ฤดูกาลที่แล้ว แทบจะทำให้เงินเกือบ 20 ล้านปอนด์ ที่ทุ่มทุนสร้างเสียไปสำหรับซื้อ “เอ็มซี” แทบจะเหลือสองบาทในพริบตา
คะแนน 8/10
————————————–
17. นานี่
ประตูแรกของฤดูกาลที่ทำให้ทีมได้ชัยชนะครั้งแรกกับท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ นั้น ทำให้ทีม ยูไนเต็ด เริ่มเข้าเกียร์ 1 และก่อนที่มายิงไหลเป็นน้ำ แต่ดูเหมือนฟอร์มของปีกโปรตุกีสผู้นี้ จะขึ้นๆ ลงๆ เหมือนหุ้นดัชนี ดาวโจนส์ ทำให้แฟนผี ต้องหายใจไม่ทั่วท้อง เวลาปีกฝอยทองกระชากลากเลื้อย แต่ทั้งนี้ เราต้องขอบคุณเจ้าบังนี่ด้วย กับการยิงจุดโทษชี้เป็นชี้ตาย ในนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เพราะถ้านานี่ยิงไม่เข้า จอห์น เทอร์รี่ คงไม่มีโอกาสได้ลื่นล้มยิงออกหรอกนะ
คะแนน 7.5/10
————————————–
18. พอล สโคลส์
Paul Scholes He Score a Goal. แม้ว่าสโคลส์จะยิงได้แค่ 2 ลูก แต่มีลูกนึง ที่ทำให้ความฝันของเขาและท่านเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้ทะยานเข้าสู่กรุงมอสโคว เขาเป็นนักเตะที่เก่งทั้งสนามซ้อมมากที่สุด แต่ไม่ใช่หมูสนามจริง เพราะผลงานในสนามของเขา มักจะทำให้เหล่าบรรดานักวิจารณ์ปากเปราะ เงียบปากไปได้ทุกครา เอาเป็นว่า เขาสามารถทำให้ วิคตอร์ บัลเดส พบกับฝันร้ายตลอดกาล
คะแนน 7/10
————————————–
19. เคราร์ด ปีเก้
เขาไม่ค่อยมีโอกาสได้ลงสนามเท่าไหร่นัก และพอได้โอกาสลงเล่นแล้ว มักจะทำผลงานได้ไม่ดีเท่าที่ควรนักในลีก แต่ผลงานของในฟุตบอลยุโรป ถือว่าโดดเด่นเป็นอย่างมาก เขาเป็นกองหลังที่มีอนาคตไกล และคงจะน่าเสียดายมากๆ ถ้าเจ้าตัวเลือกที่จะย้ายกลับไปยังรังเก่า บาร์เซโลน่า ที่เคยปลุกปั้นนักเตะเยาวชน แบบเขา กลายมาเป็นดาราดังได้เหมือน ลีโอเนล เมสซี่ และ ฟรานเชส ฟาเบรกัส
คะแนน 6/10
————————————–
22. จอห์น โอเชีย
ปีนี้ อาจจะไม่ใช่ปีที่โดดเด่นของ จอห์น โอเชีย เท่าไหร่นัก กับการฝากรอยแผลเป็นที่รูด๊ากส์ กับพวกสเกาเซอร์ แต่ก็ยังสามารถใช้เป็นอะไหล่ในเสริมเกมรับได้เป็นอย่างดี เวลาที่ผู้เล่นคนอื่นบาดเจ็บ แม้ผลงานอาจจะไม่ดีเท่าฤดูกาลที่แล้ว แต่ยังสมกับการเป็นอะไหล่มืออาชีพ ที่สามารถลงมาแก้ไขทุกสถานการณ์จากร้ายกลายมาเป็นดีได้เสมอ
คะแนน 6/10
————————————–
24. ดาร์เรน เฟลทเชอร์
อาร์เซน่อล ถือว่าเป็นทีมที่มีเกมรับเหนียวแน่น แทบจะไม่โดนใครเจาะเกิน 1 หรือ 2 ประตู ในช่วงต้นฤดูกาล แต่ ดาร์เรน เฟลทเชอร์ เหมาคนเดียว 2 ประตู ถล่มถังขี้ และเป็นการส่งผลระยะยาวให้ กุนเนอร์ส ต้องพบกับความว่างเปล่าเป็นฤดูกาลที่ 3 ติดต่อกัน เขาสามารถทำหน้าที่ได้ดีและสามารถลบเงาของความเป็นจตุรเทพในอดีตได้อย่างหมดจดอีกด้วย
คะแนน 7/10
————————————–
27. มิกาเอล ซิลแวสตร์
กองหลังประสบการณ์สูง เพิ่งหายเจ็บกลับมา ก็สามารถแบ่งเบาภาระของ ปาทริซ เอวร่า ได้อย่างหายห่วง ถึงแม้ว่า เขาอาจจะถูกมองว่า เป็นกองหลังที่มีจังหวะเฟอะฟะเล็กน้อย แต่ตำแหน่งการเล่นเป็นแบ็คซ้ายของเขา แทบจะไม่ต่างอะไรกับเอา ปาทริซ เอวร่า ลงมาเล่น น่าเสียดาย ที่เขามีเวลาน้อยไปหน่อยในฤดูกาลนี้ จึงไม่ค่อยมีผลงานให้เห็นมากเท่าที่ควร
คะแนน 5.5/10
————————————–
29. โทมัสซ์ คุสซ์แซค
โกล์สำรองอีกคนนึง ที่ไว้เนื้อเชื่อใจได้ เหมือนกับสมัย ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล ที่มี ไรมอนด์ ฟาน เดอะ ฮาว เป็นตัวสำรอง อุ่นใจทุกครั้งที่ลงสนาม และมีส่วนช่วยทำให้ทีมไม่เสียประตู และชนะมาก็หลายนัด จะมีพลาดแค่จังหวะเสียจุดโทษให้กับ มิลาน บารอส ของ ปอร์ทสมัธ ในศึก เอฟเอ คัพ ก็แค่นั้น อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ แฟนๆ ก็ให้อภัย โทมัสซ์ คุสซ์แซ็ค กันหมดแล้ว
คะแนน 6.5/10
————————————–
32. คาร์ลอส เตเวซ
นักเตะอาร์เจนติน่า ที่มาค้าแข้งในอังกฤษ คนล่าสุดคือ เฮอร์นัน เครสโป ก่อนหน้านี้ก็มีรุ่นพี่อย่าง ฮวน เซบา เวรอน ที่ฝากผลงานระดับ มาสเตอร์ พีซ ไว้ให้เจ็บใจเล่น แต่ขอโทษ คาร์ลอส เตเวซ ไม่ใช่ เขาเป็นนักเตะที่ได้การยอมรับและซูฮก มาทุกสโมสรที่เขาอยู่ เขาเป็นขวัญใจแฟนบอลทั้ง โบคา จูเนียร์, โครินเธียน, เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาได้หมด ที่สำคัญ ชอบยิงประตูโกงความตายให้กับทีมได้อยู่เรื่อย จนทำให้ทีมเป็นดับเบิ้ลแชมป์ได้สำเร็จ
คะแนน 8.5/10
————————————–
และ ต้องไม่ลืม……ผู้จัดการทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกตลอดกาล…..เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
ManSmith
2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC